การทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างทนายความ

         เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักทั้งทนายความสิทธาและนายอัจฉริยะกันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมานั้นเคยมีคดีความที่เป็นคดีใหญ่โตระหว่างคนทั้งคู่เกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้านซึ่งในครั้งนั้นทั้งทนายสิทธาและนายอัจฉริยะต่างกันร่วมมือกันในการช่วยเหลืออดีตนายตำรวจคุณลุงจรูญให้ได้หวย 30 ล้านมาไว้ในครอบครอง

ซึ่งในครั้งนั้นทั้งคู่ประกาศเป็นพี่น้องกันมีการโพสต์ไปเที่ยวและไปทำบุญร่วมกันอยู่บ่อยครั้งแต่อยู่ดีๆทั้งคู่ก็ประกาศออกมาแตกหักกันโดยเริ่มใส่ไฟกันเองว่าทนายความสิทธามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างไรทำให้นายอัจฉริยะเมื่อรู้ความจริงก็เกิดอาการทนไม่ได้ไม่สามารถจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานต่อได้ส่วนทางด้านทนายความสิทธาเองก็ออกมาต่อว่านายอัจฉริยะเช่นเดียวกัน

เกี่ยวกับเรื่องของการเข้ามายุ่งเรื่องของหวย 30 ล้านเพราะต้องการได้รับเงินส่วนแบ่งและพอไม่ได้รับเงินส่วนแบ่งตามที่ตัวเองอยากได้ก็เกิดออกมาแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวให้เห็นทำให้ทนายความสิทธานั้นเลือกที่จะเลิกคบกับนายอัจฉริยะซึ่งเรื่องราวของคนทั้งคู่นั้นเป็นเรื่องราวที่ทะเลาะกันรุนแรงใหญ่โตเลยทีเดียวในขณะนั้นแต่ถึงแม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว

แต่ทนายความสิทธาและนายอัจฉริยะก็ยังคงมีปัญหากันอยู่เรื่อยมาเราไม่ว่าอีกฝ่ายใดจะทำคดีเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้ามาโจมตีถึงพฤติกรรมการทำงานของฝ่ายตรงข้ามอยู่นั่นเองจนล่าสุดที่มีข่าวเกี่ยวกับคดีเด็กหญิงชมพู่อายุเพียงแค่ 3 ขวบที่หายตัวออกจากบ้านและพบเป็นศพอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้น 5 วันในป่าบนเขาหลังบ้านของเด็กหญิงเอง

ซึ่งแม้จะผ่านมาเกิน 60 วันแล้วแต่คดีความก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างไรเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ซึ่งในครั้งนี้นาย อัจฉริยะก็ได้ออกมาติดกระแสกับเขาด้วยเช่นเดียวกันโดยนายอัจฉริยะนั้นให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองนั้นมีหลักฐานที่จะสามารถเอาตัวคนร้ายมาลงโทษได้และมีการนำรูปภาพของศพของเด็กหญิงชมพู่ออกมาเผยแพร่รวมถึงออกมาระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าตายเพราะถูกตีจนตายและมีการนำศพไปทิ้งเอาไว้ซึ่งเรื่องราวนี้กำลังเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก

เพราะหลายคนไม่เชื่อว่าเด็กหญิงจะถูกตีจนตายเนื่องจากลักษณะของศพนั้นไม่เข้าข่ายที่จะถูกตีจนตายนั่นเองอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทนายความสิทธาอดทนไม่ไหวจนต้องออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะเกี่ยวกับคดีของเด็กหญิงชมพู่อีกครั้งหนึ่งโดยให้เหตุผลว่านายอัจฉริยะนำหลักฐานส่วนตัวของเด็กหญิงชมพู่มาเผยแพร่ซึ่งผิดกฎหมายเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์และอยากให้นายอัจฉริยะนำหลักฐานที่มีไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแทนที่จะมาสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองแบบนี้

เรื่องราวของนายอัจฉริยะและทนายสิทธาที่ทะเลาะกันนั้นกำลังเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปกันเป็นอย่างมากเพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำเกี่ยวกับเรื่องอะไรอีกฝ่ายหนึ่งก็มักจะฟ้องร้องและเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ตลอดเวลานั่นเองเราคงต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้วคนทั้งคู่นั้นจะสามารถตกลงและอยู่ด้วยกันอย่างสันติได้หรือไม่

 

สนับสนุนโดย  วิธีเล่นหวยยี่กีให้ได้กำไร